วันพุธที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ราก(root)



โครงสร้างของราก:: แบ่งได้ 4 บริเวณ คือ
     1. บริเวณหมวกราก (Root capประกอบด้วยเซลล์พาเรงคิมา (Parenchyma) เรียงตัวกันอย่างหลวมๆ ผนังค่อนข้างบาง มีแวคิวโอลนาดใหญ่ สามารถผลิตเมือกได้ ทำให้หมวกรากชุ่มชื้ และอ่อนตัว สะดวกค่อการชอนไช และสามารถป้องกันอันตรายให้กับบริเวณที่อยู่เหนือขึ้นไปได้
   2.บริเวณเซลล์กำลังแบ่งตัว(Region of cell division)อยู่ถัดจากรากขึ้นมาประมาณ 1-2 mm เป็นบริเวณของเนื้อเยื่อเจริญ จึงมีการแบ่งเซลล์แบบไมโทซีส เพื่อเพิ่มจำนวน โดยส่วนหนึ่งเจริญเป็นหมวกราก อีกส่วนเจริญเป็นเนื้อเยื่อ ที่อยู่สูงถัดขึ้นไป
   3. บริเวณเซลล์ขยายตัวตามยาว (Region of cell elongation) อยู่ถัดจากบริเวณเซลล์มีการแบ่งตัว เป็นบริเวณที่เซลล์มีการยืดยาวขึ้น
  4. บริเวณเซลล์เปลี่ยนแปลงไปทำหน้าที่เฉพาะ (Region of cell differentiation and maturation) ประกอบด้วยเซลล์ถาวรต่างๆ ซึ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงมาจากเนื้อเยื่อเจริญมีโครงสร้างเพื่อทำหน้าที่ต่างๆ บริเวณนี้จะมีเซลล์ขนราก (Root hair cell)
                                                   
                                                 ภาพ สไลด์โครงสร้างของรากพืชตามยาว
               ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%
                             

                                                         ภาพ โครงสร้างตามยาวของราก

                  ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%        
                            ที่มา http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/root.html



  
      ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20root/pic1.jpg

หน้าที่ของรากราก มีหน้าที่สำคัญอยู่ 2 ประการ คือ
     
1. ดูดน้ำ และแร่ธาตุ จากพื้นดินส่งขึ้นไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ซึ่งต้องนำไปผ่านกระบวนการปรุง หรือการสังเคราะห์ด้วยแสงก่อน ปัจจุบันได้มีการพัฒนาปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน แต่จะเอารากไปแช่ในน้ำซึ่งมีปุ๋ย หรือธาตุอาหารผสมอยู่ ดังนั้น การดูดน้ำหรือแร่ธาตุที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะไม่ใช่จากพื้นดินเสมอไป
     2. ยึดลำต้นให้ติดกับพื้นดิน พืชเป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่กับที่ มีลำต้นชี้ขึ้นไปสู่ท้องฟ้า ส่งกิ่งก้านที่มีใบติดอยู่ขึ้นรับแสงอาทิตย์ เพื่อปรุงอาหาร ถ้าพืชไม่มีรากลำต้นจะ
หน้าที่พิเศษของราก 
พืชบางชนิด มีรากซึ่งทำหน้าที่พิเศษจากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ได้แก่
     
1. รากค้ำจุน (prop root) เป็นรากที่แตกออกจากข้อของลำต้นเหนือดิน ช่วยพยุง
ลำต้นไม่ให้ล้มง่าย เช่น รากโกงกาง ข้าวโพด ลำเจียก ยางอินเดีย
     
2. รากยึดเกาะ (climbing root) เป็นรากที่แตกออกจากข้อของลำต้นแล้วยึดเกาะ
กับเสาหรือไม้อื่นเพื่อไต่ขึ้นด้านบน เช่น รากพลู พลูด่าง พริกไทย
     
3. รากหายใจ (aerating root) เป็นรากที่แตกแขนงจากรากใหญ่ แล้วแทงขึ้นด้านบนขึ้นมาเหนือพื้นดินหรือพื้นน้ำ เช่น รากลำพู โกงกาง กล้วยไม้     4. รากสังเคราะห์แสง (photosynthetic root) เป็นรากที่แตกแขนงออกจากลำต้น แล้วมักห้อยลงมาในอากาศ มักมีสีเขียวของคลอโรฟิลล์ เช่น รากไทร รากกล้วยไม้      5. รากสะสมอาหาร (storage root) มีลักษณะอวบอ้วน เช่น หัวผักกาด แครอท มันเทศ มันแกว มันสำปะหลัง เป็นต้น
                       ที่มาของเนื้อหา http://school.obec.go.th/webkrusun/plant/title1/root.htm




 
ชนิดของรากเมื่อแยกตามกำเนิด จำแนกออกเป็น 3 ชนิดคือ
1. Primary root หรือ รากแก้ว (tap root) มีลักษณะ ตอนโคนจะโตแล้วค่อยเรียวเล็กลงไปจนถึงปลาย จะยาวและใหญ่กว่ารากอื่นๆที่แยกออกไป ทำหน้าที่ เป็นหลักรับส่วนอื่นๆให้ทรงตัวอยู่ได้ รากชนิดนี้พบในพืชใบเลี้ยงคู่ที่งอกออกจากเมล็ดโดยปกติ ส่วนพืชใบเลี้ยงเดี่ยวที่งอกออกจากเมล็ดใหม่ๆก็มีรากระบบนี้เหมือนกันแต่มีอายุได้ไม่นานก็เน่าเปื่อยไปแล้วเกิดรากชนิดใหม่ขึ้นมาแทน(รากฝอย)
        

                                                                          ภาพ รากแก้ว
      ที่มาของภาพนี้  http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20root/root_Acer_taproot.jpg
2. Secondary root หรือรากแขนง(lateral root หรือ branch root) เป็นรากที่เจริญเติบโตออกมาจาก รากแก้ว มักงอกเอียงลงไปในดินจนเกือบขนานหรือขนานไปกับพื้นดิน รากชนิดนี้อาจแตกแขนงออกเป็นทอดๆ ได้อีกเรื่อยๆ ทั้งรากแขนงและแขนงต่างๆที่ยื่นออกไปเป็นทอดๆต่างกำเนิดมาจากเนื้อเยื่อเพริไซเคิลในรากเดิมทั้งสิ้น
                                                     

                                                                           ภาพ รากแขนง
    ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20root/RKN_10.jpg
3. Adventitious root หรือ รากวิสามัญ เป็นรากที่ไม่ได้กำเนิดมาจากรากแก้วหรือรากแขนง รากชนิดนี้อาจแตกออกจากโคนต้นของพืช ตามข้อของลำต้นหรือกิ่ง ตามใบหรือจากกิ่งตอนของไม้ผลทุกชนิด แยกเป็นชนิดย่อยได้ตามรูปร่างและหน้าที่ ได้ดังนี้
     - รากฝอย (fibrous root) เป็นรากเส้นเล็กๆมากมาย ขนาดโตสม่ำเสมอกันไม่ไม่เรียวลงที่ปลายอย่างรากแก้ว        งอกออกจากรอบโคนต้นแทนรากแก้วที่ฝ่อเสียไปหรือที่หยุดเตอบโต พบในพืชใบเลี้ยงเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่
                                                             
                                                                            ภาพ รากฝอย
              ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20root/fibrsrt.jpg
- ากค้ำจุ้น (Prop root) เป็นรากที่แตกออกมาจากข้อของลำต้น ที่อยู่ใต้ดิน และเหนือดินขึ้นมาเล็กน้อย และพุ่งแทงลงไปในดิน        เพื่อพยุงลำต้นเอาไว้ไม่ให้ล้มง่าย เช่นรากค้ำจุนของต้นข้าวโพด ต้นลำเจียก ต้นโกงกาง 
                                   
                                                                                ภาพ รากค้ำจุน
            ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20root/Prop_roots.jpg
 - รากเกาะ (Climbing root) เป็นรากที่แตกออกมาจากข้อของลำต้นแล้วมาเกาะตามหลักหรือเสา       เพื่อพยุงลำต้นให้ติดแน่นและชูลำต้นขึ้นที่สูง เช่นรากของพลู พลูด่าง กล้วยไม้ 
                               
ภาพ รากเกาะ
          ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20root/root%20climbing.jpg
 - รากสังเคราะห์แสง (photosynthtic root) เป็นรากที่แตกออกมาจากข้อของลำต้น แล้วห้อยลงมาในอากาศ 
มีสีเขียวของคลอโรฟิล       เป็นรากที่ทำหน้าที่สังเคราะห์แสง เช่น รากกล้วยไม้ที่มีสีเขียวเฉพาะรากอ่อน หรือปลายรากที่แก่เท่านั้น
      รากของไทร โกงกาง มีสีเขียวเฉพาะตรงที่ห้อยอยู่ในอากาศ ส่วนที่ไซลงไปในดินแล้วไม่มีสีเขียวเลย
                                              
                                                               ภาพ รากสังเคราะห์แสงของกล้วยไม
                ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20root/7.jpg
  - รากหายใจ (Respiratory root)รากพวกนี้เป็นแขนงงอกออกจากรากใหญ่ที่แทงลงไปในดินอีกทีหนึ่ง แต่แทนที่จะงอกลงไปในดิน กับ      ชูปลายขึ้นมาเหนือดินหรือผิวน้ำ บางทีก็ลอยตามผิวน้ำ เช่นรากของแพงพวย 
                            
                                                                ภาพ รากต้นลำพูซึ่งเป็นรากหายใจ
              ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20root/pneumat.jpg
- รากกาฝาก (Parasitic root) เป็นรากของพืชบางชนิดที่เป็นปรสิต เช่นรากของต้นกาฝาก และต้นฝอยทอง
                                         
                                                                      ภาพ กาฝาก
                ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20root/rtsuck2.jpg
  - รากสะสมอาหาร (storage root) เป็นรากที่ทำหน้าที่ในการสะสมอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล หรือ โปรตีนเอาไว้      ทำให้มีลักษณะอวบอ้วนเรามักเรียกว่า หัว เช่น หัวแครอต หัวผักกาด หัวมันเทศ หัวมันแกว มันสำปะหลัง กระชาย เป็นต้น
                              
                                                            ภาพ รากสะสมอาหาร
                ที่มาของภาพนี้ http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/image%20root/rootveg.jpg

ที่มาของเนื้อหา http://www.nana-bio.com/e-learning/plant%20organ/root.html





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น